ทำไมฉันถึงเลือกที่จะเรียน"หมอ" - ทำไมฉันถึงเลือกที่จะเรียน"หมอ" นิยาย ทำไมฉันถึงเลือกที่จะเรียน"หมอ" : Dek-D.com - Writer

    ทำไมฉันถึงเลือกที่จะเรียน"หมอ"

    ตั้งแต่ฉันเกิดมาไม่เคยมีใครบังคับให้ฉันทำอะไรได้ ฉันจะลงมือทำเองเมื่อฉันพอใจที่จะทำ ฉันจะรักใครก็ต่อเมื่อฉันพอใจที่จะรัก....ใช่ฉันเป็นคนที่เอาแต่ใจและต้องได้ทุกอย่างที่ต้องการ แต่นั่นทำให้บางคนเสียใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    65

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    0

    ผู้เข้าชมรวม


    65

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ส.ค. 57 / 15:01 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    เชื่อว่าน้องหลายคนที่ใช้คำว่า"ตัดสินใจอนาคต"กันในตอนนี้กำลังเลือกเส้นทางในชีวิตในมหาลัยกันอยู่ ทั้งคุณครู พ่อแม่ ทั้งครอบครัว กระนั้นยังไม่พอยังโดนกดดันจากสังคมรอบข้างอีก พอขึ้นม.6ก็โดนรุมถามขึ้นมาทันทีคงไม่ต้องบอกนะว่าคำถามอะไร ก็รู้ๆกันอยู่ ยังกะนัดกันมาถามอยู่ได้คำถามเดียว......และอีกอย่างไม่รู้เป็นอะไรกันทั้งมนุษย์ป้าที่บังเอิญรู้จักบนรถเมล์กระทั้งพ่อแม่เราเอง ขยั้นขยอเหลือเกินที่จะให้เราไปสอบหมอ ถ้าสอบติดขึ้นมามีใครสักกี่คนกันเชียวที่ปฏิเสธที่จะไม่เรียน เพราะอาชีพหมอที่ถูกคนรอบตัวปลูกฟังมาก็คือ มนุษย์ที่ได้รับการนับถืออย่างมาก ผู้อยู่ในชุดกาวน์เดินว่อนไปว่อนมาในโรงพยาบาล มีลูกที่มีคำว่านายแพทย์นำหน้านั่นคือความภาคภูมิของครอบครัว สอบหมอติดใครๆก็ยกย่องใครๆก็เฮ่อ เป็นหมอมีเงินเดือนใช้ไปทั้งชาติไม่มีทางที่จะตกงาน ลูกเป็นหมอพ่อแม่และคนในครอบครัวก็สบาย....ใช่เหตุผลที่กล่าวมาไม่มีข้อใดผิด และเหตุผลพวกนี้ทำให้ใครหลายคนเลือกที่จะเรียนหมอ แต่เหตุผลพวกนี้ไม่พอที่จะทำให้คนคนนึงเป็นหมอได้!!
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; หน้าร้อนเมื่อ4ปีที่แล้วฉันก็เหมือนเด็กม.ต้นคนอื่นๆที่พ่อแม่ส่งให้ไปเรียนกวดวิชา แต่มันแย่หน่อยที่ฉันไม่ได้อยู่บ้านเลยตลอดช่วงปิดเทอมและที่แย่กว่านั้นคือต้องใช้ชีวิตอยู่คนเดียว ตื่น เรียน กิน นอน แล้วก็ตื่น นั่นคือชีวิตตลอด2เดือนครึ่ง มันไม่ใช่เรื่องแปลกที่นักเรียนจะมาเรียนกวดวิชาอย่างเอาเป็นเอาตายในยุคสมัยนี้ ถึงแม้การเรียนแบบเอาเป็นเอาตายจะไม่ใช่ชีวิตของฉัน แน่นอนละก็ต้องมีออกไปเที่ยวบ้างเป็นบางครั้ง โดดเรียนบ้างเป็นบางคราวแต่มันก็ไม่ได้ทำให้การเรียนเสียหายอะไร แน่นอนการเรียนของฉันมันเป็นเรื่องแปลกของใครหลายคนทั้งครูและก็เพื่อน เพราะพวกเขาไม่เชื่อว่าเด็กห้องสุดท้ายหรือห้องโหล่จะมานั่งทำอะไรเทือกนี้ และการที่ฉันอยู่ห้องนี้มันไม่เคยทำให้ฉันเสียใจ ฉันมีเพื่อนหลายคนที่ถูกสังคมตราหน้าว่าเป็นเด็กเหลือขอ เป็นเด็กไม่ดี เป็นกลุ่มที่ทำให้โรงเรียนเสียชื่อเสียง มันเป็นเรื่องจริงที่ทุกคนมีข้อผิดพลาดแต่พวกเขายอมรับข้อผิดพลาดของตัวเองแล้วก็ใช้ชีวิตเพื่อก้าวต่อไป แต่สิ่งที่แย่ที่สุดคือสังคมไม่เคยให้โอกาศพวกเขา ฉันดีใจที่มีเป็นเพื่อนที่ขึ้นชื่อว่าเป็นเด็กเหลือขอ เพราะพวกเขาสอนชีวิต และให้คำว่ามิตรภาพที่แท้จริง ซึ้งฉันยังหาแบบนั้นไม่ได้อีกเลย &quot;พวกคุณจะรู้จักคำว่ามิตรภาพก็ต่อเมื่อคุณอยู่ในจุดที่แย่ที่สุด&quot;คำพูดนี้เป็นความจริงที่ฉันได้พิสูจน์ด้วยตัวเองแล้ว&nbsp;<br /> &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; &nbsp; เช้าวันหนึ่งคุณครูสอนวิชาคณิตศาสตร์เดินเข้ามาในห้องและประกาศว่าเดือนหน้ามีโครงการแข่งขันคณิตโอลิมปิก ถ้าสอบได้พวกเธอก็จะได้สิทธิบราๆๆๆๆๆ....แต่ว่าพวกเธอคงสอบไม่ได้หรอกให้พวกห้องคิงเค้าไปสอบก็แล้วกันนะ นั่นเป็นคำพูดของครูที่ทำให้ฉันรู้สึกแย่มากและฉันก็มีอคติกับเด็กห้องต้นมาตลอด ฉันเชื่อเสมอว่าฉันทำอะไรที่ดีกว่าพวกเขาได้ และก็เป็นเหตุให้ฉันลงเรียนเสริมตอนเย็นกับห้องเรียนที่มีแต่เด็กที่ครูเรียนว่า&quot;เด็กเก่ง&quot;เพราะฉันอยากจะรู้ว่าพวกเขาจะเก่งแค่ไหนกันเชียว และสุดท้ายฉันพิสูจน์ได้ว่าฉันไม่ใช่ผู้แพ้ถึงฉันจะไม่ได้เก่งที่สุดในห้องแต่ฉันไม่ใช่ที่สุดท้ายที่สุดในห้องแน่นอน ใช่ไม่เคยเที่ยวไปประกาศให้ใครต่อใครรู้ว่าฉันอยู่ห้องสุดท้าย เพราะฉันไม่เคยคิดที่จะให้ใครมาสนใจหรือมาเห็นใจจนต้องมาช่วย ฉันยอมรับว่าตัวเองเป็นคนที่เกลียดการผ่ายแพ้ เพราะฉะนั้นเส้นทางที่ฉันเลือกเดินจะเป็นทางที่ดีที่สุด ฉันลงสอบเพื่อขึ้นม.ปลายในโรงเรียนที่ขึ้นชื่อว่าดีที่สุดในประเทศ แน่นอนว่าสอบไม่ติด แต่สุดท้ายฉันก็ได้อยู่ห้องที่คนบอกว่าดีที่สุดของโรงเรียนที่ดีที่สุดในจังหวัด ฉันลบคำสบประมาทของคนคนนึงได้นั่นถือว่าเป็นชัยชนะของฉัน เขาคนนั้นเคยพูดว่า&quot;อย่าไปสอบเลยเสียค่าสอบเปล่าๆ อยู่ที่เดิมนี่แหละดีแล้วเป็นหัวหมาที่นี่ดีกว่าไปเป็นหางสิงโตที่นั่น&quot;ฉันเชื่อเสมอว่าต่อให้ฉันเป็นหางของสิงโตแต่ยังไงก็ยังเป็นสิงโต ขอบคุณคำสบประมาทที่ทำให้ฉันเติบโต และชีวิตต่อจากนี้พูดได้เลยว่าฉันกำลังเดินก้าวเข้าสังคมใหม่ ฉันใช้เวลา1ปีเต็มๆในการปรับตัว..........(เดียวมาต่อนะฮ้าาาาาบอกเลยยังไม่เข้าเนื้อ5555)

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×